Signal (2016)

Signal

ผู้กำกับ: คิม วอนซอก
ผู้เขียนบท: คิม อึนฮี
นักแสดงนำ: คิม เฮซู, อี เจฮุน, โจ จินอุง
จำนวนตอน: 16 

หากได้เคยดูหนังอเมริกันเรื่อง Frequency ที่แสดงโดย Dennis Quaid และ Jim Caviezel ก็คงจะเห็นถึงความคล้ายคลึงกันในวิธีการเดินเรื่องของทั้งสอง นั่นก็คือการติดต่อระหว่างบุคคลผ่านกาลเวลา โดยในส่วนของหนังนั้น เป็นการติดต่อกันระหว่างพ่อกับลูกผ่านวิทยุของพ่อ และในซีรี่ส์นั้น เป็นการติดต่อระหว่างตำรวจรุ่นพี่กับตำรวจรุ่นน้องผ่านวิทยุสื่อสารของตำรวจรุ่นพี่ โดยทั้งสองเรื่อง ต่างก็มีจุดเชื่อมโยงที่เหมือนกันอยู่หนึ่งจุด นั่นก็คือเหตุการณ์การเสียชีวิตของคนในครอบครัว

แม้จะมีความคล้ายคลึงกันในหลายจุด แต่ทั้งสองเรื่องต่างก็มีความสนุกในแบบของตัวเองค่ะ ซึ่งในเรื่อง Signal นี้ เป็นที่ฮือฮาค่อนข้างมากจากการที่ผู้กำกับและผู้เขียนบท หยิบเอาคดีที่ยังปิดไม่ลง รวมถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริงในเกาหลี มาใช้เป็นพล็อตย่อยในการผูกเรื่อง และคนดูยังได้ลุ้นกับการช่วยตำรวจดีสู้กับตำรวจเลว และการเอาใจช่วยให้สามทหารเสืออย่าง พัคเฮยอง อีแจฮัน ชาซูฮยอน ได้ช่วยกันไขคดีที่ยังปิดไม่ลงในอดีต และยังสามารถรักษาชีวิตตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยไปด้วยได้

แม้ส่วนตัวจะมองว่าพล็อตในเรื่องเวลาของเรื่องนี้ ดูจะมีรูรั่วมากกว่าเรื่อง Frequency แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดูสนุกและลุ้นจริงจังดีค่ะ จุดที่ชอบมากๆคือการที่อีแจฮันย้ำอยู่ตลอดเวลาในเรื่องว่าอนาคตสามารถแก้ไขได้ถ้าเราทำอดีตให้ดีที่สุด และตัวอีแจฮันเอง ก็ใช้ชีวิตในอดีตได้แบบยึดมั่นในอุดมคติเต็มที่จริงๆ ซึ้งจนร้องไห้น้ำตาร่วงไปหลายตอนเลย

ส่วนอันนี้เป็นคลิปคดีจริงที่เป็นที่มาของคดีในเรื่องค่ะ (ซับอังกฤษ)

และถ้ามีเวลา ลองไปหาหนังฮอลลีวู้ดเรื่อง Frequency มาดูด้วย ก็สนุกมากๆเหมือนกันค่ะ

ความฟิน ให้คะแนน 3/10
ความดราม่า ให้คะแนน 8/10
ความสนุก/ประทับใจ ให้คะแนน 7/10

You’re All Surrounded (2014)

YouAreAllSurrounded

ผู้กำกับ: ยู อินชิก
ผู้เขียนบท: อี จองซอน
นักแสดงนำ: ชา ซึงวอน, อี ซึงกิ, โก อารา, อัน แจฮยอน, พัค จองมิน
จำนวนตอน: 20 

เรื่องราวของตำรวจ rookie หน้าใหม่ 4 คนกับหัวหน้าทีมผู้เคร่งครัดและโหดเอาเรื่อง โดยเปิดเรื่องด้วยคดีฆาตกรรมแม่ของอึนแดกู (แสดงโดย อีซึงกิ) และตามด้วยเหตุการณ์ที่เขาโผล่เข้ามาเป็นหนึ่งในลูกน้องของทีมที่หัวหน้าเคยเป็นนักสืบในคดีที่เกี่ยวข้องกับแม่ของแดกูมาก่อน ซึ่งในช่วงแรกๆก็จะมาแบบเน้นมุกขำๆ (ที่ก็ดูไม่ได้ขำอะไรมาก) และตามด้วยอารมณ์ที่หนักหน่วงขึ้นจากการพยายามตามหาฆาตกรในคดีฆาตกรรมแม่ของแดกู โดยมีเพื่อนๆในทีมอย่าง ออซูซาน (แสดงโดยโกอารา), พัคแทอิล (แสดงโดย อันแจฮยอน), จีกุ๊ก (พัคจองมิน) เป็นฝ่ายสนับสนุนที่รักกันบ้าง ตีกันบ้าง

ไม่ได้มีพล็อตซ้ำซ้อนอะไรมาก ดูได้เพลินๆค่ะ

ความฟิน ให้คะแนน 3/10
ความดราม่า ให้คะแนน 4/10
ความสนุก/ประทับใจ ให้คะแนน 6/10

White Collar Season 2 (2010)

White Collar Season2

Creator: Jeff Eastin
Main cast: Matt Bomer, Tim DeKay, Willie Garson, Tiffani Thiessen, Marsha Thomason, Sharif Atkins
No. of Episodes: 16

ซีซั่นสองก็ยังคงน่าประทับใจค่ะ สำหรับคู่หู Peter Burke กับ Neal Cafrey ซึ่งเราจะเห็นความผูกพันที่ชัดขึ้นของคู่นี้ด้วย อารมณ์ขันของเรื่องก็ยังคงแทรกไปกับพล็อตเรื่องได้ดี แต่โดยส่วนตัว อิชั้นชอบคาแร็คเตอร์ของ Peter Burke มาก คือฮีเป็น inspiration ที่ดีมาก เป็นคาแร็คเตอร์ที่มีความคิดของตัวเองชัดเจน มี eQ ดี เป็น family man มีความพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีและเป็น และยังเป็นคนคิดดีที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ Neal ได้จริงๆ แถมความเนิร์ดของฮียังสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้อีกด้วย

จบซีซั่นได้กวนประสาทมากค่ะ อยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าจะต่อซีซั่น 3 ยังไง

ให้คะแนน 8/10 ค่ะ

White Collar Season 1 (2009)

WhtieCollar Season1

Creator: Jeff Eastin
Main cast: Matt Bomer, Tim DeKay, Willie Garson, Tiffani Thiessen
No. of Episodes: 14

เรื่องราวของทีมสอบสวน FBI สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับบรรดาของไฮโซๆอย่างพวก ภาพเขียน ประติมากรรม artifct ทั้งหลาย ซึ่งจะมีใครรู้ดีไปกว่าขโมยฝีมือฉกาจอย่าง Neal Caffrey ที่ถูก FBI agent อย่าง Peter Burke ไปเอาออกมาจากคุกเพื่อช่วยงานของเขา แถมยังเพิ่มพล็อตใหญ่โดยการดึงเอาแฟนเก่าของ Neal เข้ามาเกี่ยวข้องกับพล็อตด้วย

สนุกมาก เดินเรื่องเร็ว กระชับ เล่าเรื่องได้น่าสนใจ ใช้ประเด็นการตามหาตัวแฟนและ clue บางอย่างที่มีอยู่เป็นตัวเดินเรื่องหลัก ซึ่งทำได้น่าติดตามและคู่หูอย่าง Peter Burke กับ Neal Cafrey ก็เป็นคู่หูที่เคมีเข้ากันได้ดีมาก ถือว่าเป็นซีซั่นที่เปิดตัวได้ดีและปิดซีซั่นได้น่าติดตามมากๆค่ะ

ให้คะแนน 8/10 ค่ะ

The Mentalist Season 2 (2009)

Mentalist Season2

Creator: Bruno Heller
Main cast: Simon Baker, Robin Tunney, Tim Kang, Owain Yeoman, Amanda Righetti
No. of Episodes: 23

ยังคงความกวนประสาทได้อย่างคงเส้นคงวา สำหรับนาย Patrick Jane ที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับทีม CBI (California Bureau of Investigation) ของตำรวจ ซึ่งบางตอนอาจจะเห็นถึงความเป็นคนเย็นชาและมุ่งหวังจะได้มาซึ่งผลลัพธ์โดยไม่ได้นึกถึงการกระทำมากไปนิด แต่โดยรวมแล้วก็ยังเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์และสตรองมาก และอารมณ์ขันของซีรี่ส์ก็ยังคงทำได้ดีแบบต่อเนื่อง

ซีซั่นนี้มีความเกี่ยวข้องในเรื่องความรักของสมาชิกในทีมมากขึ้น และตอนที่เกี่ยวข้องกับ Red John ก็ยังเป็นตอนที่สนุกมาก และยังมีตอนที่ได้เห็น Jane มีอาการ flashback ไปในช่วงวัยเด็กอีกด้วย ก็ทำให้เห็นมิติของตัวละครมากขึ้น

รอต่อที่ซีซั่น 3 ค่ะ

ให้คะแนน 7/10 ค่ะ

The Mentalist Season 1 (2008)

Mentalist Season1 (short version)

Creator: Bruno Heller
Main cast: Simon Baker, Robin Tunney, Tim Kang, Owain Yeoman, Amanda Righetti
No. of Episodes: 23

Patrick Jane ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยสืบสวนสอบสวนของแคลิฟอร์เนีย คือไม่ได้เป็นตำรวจ แต่ด้วยความที่ฮีเป็นคนช่างสังเกตเว่อร์ แถมยังมีจิตวิทยาสูงมาก ก็เลยช่วยตำรวจในการไขคดีต่างๆเยอะ แต่ตัวฮีเองก็อยากจะตามหาฆาตกร (ที่ใช้ชื่อว่า Red John) ที่ฆ่าเมียกับลูกสาวฮีด้วย ก็เลยช่วยตำรวจเผื่อเจอฆาตกรที่เป็น serial killer ในคดีที่คุณพี่แกตามอยู่

สนุกค่ะ พี่แกดูขบถ กวนประสาท และใช้ความกวนของตัวเองในการกระตุ้นให้คนร้ายเกิดอารมณ์หรือแสดงพิรุธให้พี่แกได้จับผิด โดยใช้วิธีที่แตกต่างจากตำรวจทั่วไปดี เลยทำให้พล็อตดูแปลกและน่าสนใจ และเพราะคุณพี่แกหัวไวและช่างสังเกตมาก (เออ..ก็ช่างจับผิดอ่ะนะ) ถึงแม้บางทีจะเว่อร์ไปมาก เช่น อยู่ถูกที่ถูกทาง เห็นถูกจังหวะเป๊ะไปหน่อย แต่ก็เป็นความเว่อร์นิดๆที่ทำให้ดูสนุกและรู้สึกทึ่งกับจิตวิทยาของพี่แกอยู่ดี

จบซีซั่นแรกกันแบบเกือบจะได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Red John เพิ่มขึ้นอยู่แล้วเชียว แหม.. ก็ไปลุ้นต่อกันในซีซั่นถัดไปค่ะ

ให้คะแนน 7/10 ค่ะ

The Master’s Sun (2013)

MasterSun

ผู้กำกับ: จิน ฮยอก
ผู้เขียนบท: ฮง จองอึน, ฮง มิรัน
นักแสดงนำ: โซ จีซบ, กง ฮโยจิน
จำนวนตอน: 17

เรื่องของหญิงสาวผู้เห็นผี กับหนุ่มหล่อเจ้าของห้างใหญ่ที่มีผีตามตัวเองอยู่ พล็อตที่มาที่ไปของผีที่ตามพ่อหนุ่มนี่แหละ ที่ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องเข้มข้นดี

ถามว่าผีน่ากลัวมั้ย ไม่เลย..แต่ตกใจน่ะใช่ ก็บางทีเล่นโผล่มาแบบปุบปับ หรือไม่ก็แต่งหน้าตาผีซะประหนึ่งจะให้คนแก่หัวใจวาย แต่โดยรวมแล้วก็ดูได้อยู่ ไม่ได้น่ากลัวขาดนั้น

ที่ชวนให้กรี๊ดที่สุดในเรื่องคือพ่อหนุ่มจีซบ ที่อยู่ในมาดของจูจุงวอนผู้เย่อหยิ่งและเย็นชา คือเล่นได้ดีงามมาก หยิ่งและเย็นชาได้น่ารักเว่อร์ แถมตอนค่อยๆทำความเข้าใจกับความรู้สึกตัวเอง ไปจนกระทั่งถึงตอนเดินหน้าบอกรักนางเอก ชวนให้ฟินจิกหมอนกระจายมาก

พล็อตก็ถือว่าทำได้ดี วิญญาณผีสาวข้างพ่อหนุ่มช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นได้ต่อเนื่อง พล็อตย่อยๆที่บรรดาผีโผล่มาขอความช่วยเหลือจากนางเอกแทกงชิลก็ช่วยสร้างสีสันดี (แม้ส่วนตัวจะรู้สึกว่ากงชิลไม่ได้ดูน่าเอ็นดูเท่าไหร่เลย) แต่จริงๆแล้วพล็อตก็มีรูรั่วค่อนข้างใหญ่ และเดาไม่ยากเลย

สรุปคือดีงามตามกระแส แม้จะไม่ได้ถึงกับที่สุดในใจก็ตาม

ความฟิน ให้คะแนน 7/10
ความดราม่า ให้คะแนน 7/10
ความสนุก/ประทับใจ ให้คะแนน 8/10

Faith (2012)

Faith (Updated)

ผู้กำกับ: คิม จงฮัก, ชิน ยองฮวี
ผู้เขียนบท: ซง จีนา
นักแสดงนำ: อี มินโฮ, คิม ฮีซุน, ยู ด็อกควาน, พัก เชยอง, ยู โอซอง
จำนวนตอน: 24

เรื่องของคุณหมอศัลยแพทย์สาวที่ถูกราชองครักษ์ของจักรพรรดิในสมัยโครยอ ดึงตัวผ่านเวลา 600 กว่าปีเพื่อไปทำการรักษามเหสีของจักรพรรดิเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามระหว่างโครยอกับหยวน

นี่คือคาดหวังกับบทบาทของคุณหมออึนซูมากกว่านี้นะคะ แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อข้ามมิติมาแล้ว นางทั้งขี้โวยวาย ทั้งปากเบา ทั้งอวดดี จนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายต้องเดือดร้อนให้ขุนพลหนุ่มรูปหล่อชเวยองมาตามปกป้องนางตลอด ทำให้เนื้อเรื่องในช่วงครึ่งแรกดูรำคาญนางอยู่มาก

ค่อยมาเริ่มรู้สึกดีกับหนังมากขึ้นในช่วงครึ่งหลัง เพราะรู้สึกว่ามีการเฉือนคมกันดีระหว่างฝั่งพระเอกกับฝั่งผู้ร้าย คือใครจะพลิกเป็นฝั่งได้เปรียบเสียเปรียบนี่คือแค่ขยับกระพริบตาเดียวเอง แต่คุณหมอสาวที่ทั้งฝ่ายดีฝ่ายเลวต่างพากันแย่งตัวนั้น..ก็ยังนับว่ามีบทบาทที่อ่อนด้อยมาก คือบทส่งให้นางต้องใช้ฝีมือในการรักษาน้อยมาก (ถึงแม้คนที่นางรักษาแต่ละคนจะสำคัญมากก็เหอะ) แถมที่ถูกแย่งตัวกันไปมานั้น ก็เป็นเพราะนางปากเบาไปพูดเรื่องอนาคตเข้าให้ เลยมีคนอยากได้นางเพื่อไปสวรรค์ (เพราะทุกคนนึกว่านางมาจากที่นั่น) หรือไม่ก็เพื่อจะได้รู้อนาคตซะงั้น นี่เลยขอย้ายไปอยู่ทีมจักรพรรดิดีกว่าค่ะเพราะเป็นตัวละครที่ใช้สมองมากที่สุดในเรื่องแล้ว

สรุปคือดูได้เพลินๆค่ะ ไม่ได้ประทับใจอะไรมาก ลุ้นตอนชิงไหวชิงพริบกันไปมามากกว่า

ความฟิน ให้คะแนน 6/10
ความดราม่า ให้คะแนน 6/10
ความสนุก/ประทับใจ ให้คะแนน 6/10

My Love from the Star / You Who Came from the Stars (2013)

My Love from the Star

ผู้กำกับ: จาง แทยู
ผู้เขียนบท: พัค จีอึน
นักแสดงนำ: คิม ซููฮยอน, จอน จีฮยอน, ปาร์ค แฮจิน, ยู อินนา, ซิน ซองรก
จำนวนตอน: 21

เรื่องของมนุษย์ต่างดาวหนุ่มที่ติดอยู่ในโลกมนุษย์มาถึง 400 ปีและกำลังจะได้กลับบ้าน แต่ดันมาตกหลุมรักนักแสดงสาวที่โด่งดังเป็นพลุแตกแต่รั่วมาก

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้ดังเปรี้ยงปร้างคือดารานำ และบอกตรงๆที่เราชอบเรื่องนี้ก็แค่เพราะดาราเหมือนกัน คือทั้งซูฮยอนและจีฮยอนเล่นเก่งมาก อินมาก จัดเต็มมาก โดยเฉพาะฉากเค้นอารมณ์ของซูฮยอน และฉากรั่วสุดๆของจีฮยอน

แต่โดยเนื้อเรื่องแล้วเราว่ามันมีรูรั่วเยอะมาก ความสมเหตุสมผลน้อยมาก คือความสมเหตุสมผลเดียวที่เห็นคือการปูคาแร็คเตอร์ให้ชอนซองอีโด่งดังแต่เด็กจนมีนิสัยเห็นตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลและไม่เห็นหัวใคร ซึ่งก็เลยทำให้นางกลายเป็นตัวละครที่มีคาแร็กเตอร์ที่งี่เง่าและน่ารำคาญมาก แต่นางนั้นโชคดีนักที่มีแต่ผู้ชายดีๆมาหลงรัก และตามสูตรซีรี่ส์เกาหลีที่พระรองในเรื่องนี้ก็ดีงามไม่แพ้พระเอกเลย

ช่วงเวลาที่พระเอกจะกลับดาวของตัวเอง ช่วยลดความงี่เง่าของนางเอกลงได้บ้าง และการบีบคั้นของเวลาทำให้เนื้อเรื่องดูเข้มข้นขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังอุตส่าห์จะจบแบบ..เหมือนพยายามหาทางลงแบบอลุ้มอล่วยสุดๆ..คือจบแบบนี้ก็ได้เหรอ ที่มาที่ไปคืออะไรยังไง มีความงงขั้นสุดค่ะ

สรุปคือเราดูเรื่องนี้ด้วยความอินในนักแสดง แต่ไม่อินในเนื้อเรื่องค่ะ

 

ความฟิน ให้คะแนน 8/10
ความดราม่า ให้คะแนน 6/10
ความสนุก/ประทับใจ ให้คะแนน 6/10

It’s Okay, That’s Love (2014)

ItsOKThatsLove_I

ผู้กำกับ: คิม กยูแท 
ผู้เขียนบท: โน ฮีคยอง
นักแสดงนำ: โจ อินซอง, กง ฮโยจิน, ซอง ดงอิล, อี กวางซู
จำนวนตอน: 16

ซีรี่ส์เปิดเรื่องด้วยพระเอกที่เป็นนักเขียนและดีเจชื่อดัง เกิดอาการถูกใจและเดินหน้าจีบนางเอกที่เป็นจิตแพทย์ (ที่ดันมีปมในเรื่องความรักซะเอง) โดยเนื้อเรื่องจะเล่าตัดไปมาระหว่างปมจากฝั่งพระเอกและปมจากฝั่งนางเอก ซึ่งช่วงแรกๆก็ดูจะเน้นไปที่ปัญหาความรักระหว่างทั้งคู่

แต่ซีรี่ส์ซึ่งดูตอนแรกคล้ายๆจะเป็นแค่เรื่องดราม่ารักๆธรรมดา กลับพีคขึ้นมาด้วยพล็อตที่ถูกผูกปมไว้ให้ซับซ้อนกว่านั้น จากตอนแรกที่คิดว่าปมหลักๆน่าจะมาจากฝั่งนางเอก กลับกลายเป็นว่าไม่ใช่เลย..เพราะนั่นเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น คือ..พล็อตลึกซึ้งและจับใจมาก ผูกเรื่องดีมาก อาชีพของตัวละครก็เหมาะสมสุดๆ คือช่วยเสริมให้คนดูมองเห็นความเป็นไปและพฤติกรรมของตัวละครได้ชัดขึ้น ยังแถมด้วยความผูกพันของครอบครัว ความรักที่พระเอกและนางเอกมีให้กัน มิตรภาพที่งดงามของเพื่อน สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น

สรุปคือมันดีงามสมกับเสียงร่ำลือในความโด่งดังของซีรี่ส์เรื่องนี้จริงๆ

ความฟิน ให้คะแนน 8/10
ความดราม่า ให้คะแนน 10/10
ความสนุก/ประทับใจ ให้คะแนน 10/10